บทนำ
วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันก้าวหน้าไปถึงขั้นที่เราจะสามารถศึกษาความสุขและความทุกข์ได้ การที่เราจะกำหนดความสุขให้อยู่กับเราไปนานๆเราต้องรู้จักปล่อยวางเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของเรา แต่ความทุกข์ก็เป็นสิ่งจำเป็น หากใครใช้ความทุกข์เป็นเขาคนนั้นจะเป็นคนทีมีเหตุผลทางความคิดมาก ความรู้เป็นของมีค่า เป็นเครื่องมือในการหาเลี้ยงชีพ แต่ความรู้และทรัพย์สินก็คงยังไม่พอที่จะทำมนุษย์มีความสุขไปตลอด แต่ถ้าเราปล่อยให้ความทุกข์อยู่กับเราไปนานๆก็ไม่ดี เราต้องคิดเสมอว่า ทุกข์ได้ ก็ สุขได้เช่นกัน เมื่อเราเข้าใจสมองเราก็จะเข้าใจอารมณ์ของตนเอง เราก็จะสามารถทำชีวิตให้มีความสุขได้และลดทอนความทุกข์ได้เป็นอย่างดี
ความสุขทำให้คนฉลาดได้ คนที่มีความสุขมากๆนอกจากหน้าตาแจ่มใส ผิวพรรณดีแล้วลึกเข้าไปในสมอง จะมีสารเคมีที่หลั่งออกมาบำรุงสมองเป็นจำนวนมากสารเคมีทำให้สมองโล่งและตื่นตัว สารเอนดอร์ฟีนเป็นสารที่หลั่งออกมาในสมองในตอนที่เรามีความสุขทำให้เรียนรู้ดี เข้าใจง่ายขึ้น ส่วนสารโดพามีนเป็นสารที่หลั่งออกมาเมื่อเรามีความสุขแบบปลื้มใจโดพามีน มีความพิเศษคือเป็นสารแห่งความจำช่วยให้เราจำข้อมูลต่างๆได้ดี คนฉลาดจะต้องดูแลให้ชีวิตของเขาเป็นสุขอยู่เสมอ และคนที่มีความสุขนั้นจะมีต้นทุนทางสมองสูงพอที่จะพัฒนาเป็นความฉลาดได้ การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการทำหน้าที่ต่างๆของชิวีตคน สมองเป็นศูนย์การควบคุมการสั่งการ การจดจำ การคิดและความรู้สึกต่างๆ ของชีวิตของมนุษย์ ประกอบด้วยตัวเซลล์ประมาณ 10 พันล้านตัว ถึง 12 พันล้านตัว แต่ละตัวมีเส้นใยที่เรียกว่า แอกซอน (Axon) และเดนไดรต์(Dendrite) สำหรับให้ กระแสไฟฟ้าเคมี(Electrochemical) แล่นผ่านถึงกัน การที่เราจะคิด หรือจดจำสิ่งต่างๆ นั้น เกิดจากการเชื่อมต่อของกระแสไฟฟ้าในสมอง โดยการทำงานของสมองจะทำงานกันเป็นกลุ่ม คือ เซลล์ประสาทจะมารวมกันเป็นกลุ่มแล้ว ทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เซลล์ประสาทเหล่านี้จะติดต่อถึงกัน ทำให้เกิดการทำงาน มีกระแสไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา และสามารถแสดงผลการทำงานที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ในยามหลับ หรือหมดสติ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมอง จะมีลักษณะเป็นคลื่นไฟฟ้าซึ่งมีความถี่ที่มีรูปแบบ เฉพาะอยู่ในเซลล์ประสาท และเมื่อมีข้อมูลใหม่ๆ เข้าไปในสมองกระแสไฟฟ้าจะมีคลื่นความถี่ที่มีรูปแบบเฉพาะ
ระบบประสาท ( Nervous system ) เป็นระบบที่เป็นจุดศูนย์กลาง การทำงานต่างๆของร่างกาย โดยมีหน้าที่ที่สำคัญได้แก่ การกระตุ้น และ ควบคุมการเคลื่อนไหว การรับความรู้สึกจากสิ่งเร้าที่มากระตุ้นทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ควบคุมพฤติกรรม การเรียนรู้ ความจำ ความคิด และการตอบสนองทางอารมณ์
ระบบประสาทแบ่งตามโครงสร้างได้เป็น
1. ระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system )
2. ระบบประสาทส่วนปลาย (peripheral nervous system )
ระบบประสาทส่วนกลาง( Central Nervous system , CNS )
ระบบประสาทส่วนกลางจะประกอบไปด้วย สมอง (brain) และไขสันหลัง (spinal cord) ซึ่งระบบประสาทส่วนกลางจะทำหน้าที่ในการประมวลรวบรวมข้อมูลที่ได้รับทั้งจากระบบการรับความรู้สึก และการเคลื่อนไหวโดยข้อมูลจากการรับความรู้สึกก็มาจากสิ่งกระตุ้นทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ส่วนการควบคุมนั้นจะควบคุมโดยเซลล์ประสาทสั่งการ (motor neuron) ผ่านมาทางเส้นประสาทสั่งการ( motor nerve) ลงมาควบคุมให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและยังทำให้ร่างกายเกิดสมดุล (balance) นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เกี่ยวกับ ความจำความฉลาด การเรียนรู้ และแสดงอารมณ์ต่างๆ 1. โครงสร้างของสมอง
สมอง Brain
โครงสร้างของสมอง
สมอง มนุษย์มีสมองที่มีการพัฒนามากที่สุด
สมองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. สมองส่วนหน้า (Prosencephalon หรือ Forebrain ) แบ่งเป็น
1.1 Telencephalon ได้แก่Cerebral hemisphere หรือ cerebrum และ Deep Terencephalon nuclei ( basal ganglia)
1.2 Diencephalon หรือ Thalamum
2. สมองส่วนกลาง (Mesencephalon หรือ Midbrain ) ประกอบด้วย Corpora Quadrigemina และ Cerebral peduncle
3. สมองส่วนหลัง (Rhombencephalon หรือ Hind Brain)แบ่งเป็น
3.1 Metencephalon ได้แก่ Pons และ Cerebellum
3.2 Myelencephalon ได้แก่ Medulla oblongata
สมองส่วนหน้า ( Prrpsencephalon)
Cerebral Hemisphere สมองส่วนนี้มี 2 ข้าง มาเชื่อมกันตรงกลางด้วย Corpus callusum ส่วนเปลือกนอกเรียกว่า Cerebral cortex มีลักษณะเป็นลอนส่วนนูน เรียกว่า gyrus และมีร่องเรียกว่า Sulcus
ถ้าเป็นร่องลึกๆเรียกว่า Fissure ซึ่งในส่วนเปลือกนี้เป็นที่อยู่ของเซลล์ประสาท เนื้อข้างในจะเป็น White matter
ซึ่งประกอบด้วย เส้นประสาท Nerve fibers
Cerebral Hemisphere แต่ละข้างจะแบ่งเป็นกลีบๆ โดยร่องที่ลึกเป็น 5 กลีบ ได้แก่ frontal lobe parietal lobe temporal lobe occipital lobe insula lobe
Frontal lobe เป็นกลีบหน้าของสมองแยกจาก parietal lobe ด้วยร่องชื่อ central sulcus และแยกจาก temporal lobe ด้วยร่องชื่อ lateral sylvian fissure ด้านหน้า central sulcus
Parietal lobe เป็นกลีบที่อยู่ต่อหลัง central sulcus แยกออกจาก occipital lobe โดยร่องที่อยู่ด้านในมีชื่อว่า parieto occipital fissure ลอนที่อยู่หลังต่อ centrel sulcus มีชื่อว่า postcentral gyrus จะเป็นบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความรู้สึกร่างกายด้านตรงข้าม บริเวณส่วนล่างของกลีบนี้เป็นบริเวณที่ทำหน้าที่ที่ผสมผสานการรับรู้ต่างๆ
นางสาวอุบลวรรณ พวงแก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น